2013-01-27

PAPAYA-มะละกอ

Sweet and tasty papaya – a great remedy for many illnesses. (It’s known as Paw-Paw in Austrlia and the Pacific islands)
It’s a great fruit . . .  have a slice on me. Every day!


มะละกอ Carica papaya L. วงศ์ Caricaceae 

ชื่ออื่นได้แก่ มะก๊วยเทศ (เหนือ) มะกล้วยเต็ด (พายัพ) มะหุ่ง (ล้านช้าง) บักหุ่งหรือหมักหุ่ง (เลย นครพนม) สะกุยเส (แม่ฮ่องสอน) กล้วยลา (ยะลา) แตงต้น (สตูล) มะเต๊ะ (ปัตตานี) ลอกอ (ภาคใต้และมลายู) ภาษาฮินดูเรียก Papeeta ภาษาต่างประเทศอื่นๆ เรียก Papaya, Melan Tree, Paw Paw มะละกอเป็นไม้ผลล้มลุก ต้นสูงประมาณ 5-10 เมตร

มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกากลาง เข้ามาในหมู่เกาะฟิลิปปินส์และเอเชียราวปลายศตวรรษที่ 10 ที่ฟิลิปปินส์ ผลดิบมีสีเขียว เมื่อสุกแล้วเนื้อในจะมีสีเหลืองถึง ส้ม นิยมนำผลสดมากินสดและนำไปปรุงอาหารได้ด้วย มะละกอมีลำต้นตรงไม่มีกิ่งก้าน ลำต้นนิ่มมีสีเทา และมีร่องรอยของใบที่หลุดร่วงไป ใบเป็นใบเดี่ยวมีแฉกลึก 5-9 แฉก ก้านใบยาว เรียงตัวแบบสลับเกาะกลุ่มอยู่ด้านบนสุดของลำต้น ภายในก้านใบและใบมียางเหนียวสีขาว ช่อดอกเพศผู้มีก้านดอกยาว กลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอดยาว 1.5-2.5 เซนติเมตร ปลายแยกเป็น 5 กลีบ เมื่อบานเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.5-2.5 เซนติเมตร เกสรเพศผู้มี 10 อัน ดอกเพศเมียก้านดอกสั้นหรือไม่มีก้านดอกเลย ดอกเพศเมียและดอกสมบูรณ์เพศออกเดี่ยวหรือ 2-3 ดอก กลีบดอก 5 กลีบ ดอกมีขนาดใหญ่กว่าดอกเพศผู้ มะละกอบางต้นอาจมีดอกเพียงเพศเดียว แต่บางต้นอาจมีดอกทั้งสองเพศก็ได้

ผลดิบมีเนื้อสีขาวอมเขียวมีน้ำยางสีขาวสะสมอยู่ที่เปลือก ผลสุกมีเนื้อสีแดงส้ม เนื้อหนาอ่อนนุ่ม รสหวาน มีเมล็ดรูปไข่สีน้ำตาลดำผิวขรุขระมีถุงเมือกหุ้มจำนวนมาก มะละกอเป็นไม้ผลที่คนไทยนิยมกิน ยอดอ่อนดองกินได้ ผลดิบนำมาปรุงอาหาร ใช้ปรุงส้มตำ แกงส้ม แกงเหลือง แกงอ่อม ผัดไข่ ต้มจิ้มน้ำพริก ผลสุกกินสด น้ำมีรสชาติหวานหอม มีวิตามินเอและแคลเซียมสูง นอกจากจะมีการกินภายในประเทศแล้วปัจจุบันยังมีการส่งมะละกอไปจำหน่ายตลาดต่างประเทศอีกด้วย พันธุ์ในประเทศใช้กินผลสุกที่ได้รับความนิยมคือพันธุ์แขกดำ ปัจจุบันมีการพัฒนาพันธุ์ครั่งใช้กินดิบเก็บได้นาน เนื้อกรอบ ตำส้มตำได้รสชาติดี


ผลดีต่อสุขภาพ 

มะละกอมีไขมันอิ่มตัว คอเลสเตอรอล และเกลือโซเดียมต่ำ เป็นแหล่งที่ดีของเส้นใยอาหาร ธาตุโพแทสเซียม วิตามินเอ ซี และโฟเลต แต่ร้อยละ 92 ของพลังงานจากมะละกอสุกมาจากคาร์โบไฮเดรต ผู้ที่ควบคุมอาหารแป้งและน้ำตาลจึงไม่ควรกินมะละกอมากเกินไป

สีแดงอมส้มที่พบในมะละกอสุกแสดงว่า มะละกอสุกมีสารไลโคพีนซึ่งเป็นสารช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากอีกด้วย มะละกอสุกอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ได้แก่ แคโรทีน วิตามินซี สารฟลาโวนอยด์ สารโฟเลต กรดแพนโทเทนิก ธาตุโพแทสเซียม แมกนีเซียม และเส้นใยอาหาร สารอาหารเหล่านี้บำรุงสุขภาพของระบบหัวใจและหลอดเลือด และป้องกันการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่อีก ด้วย นอกจากนี้มะละกอมีเอนไซม์ปาเปน สามารถนำมาใช้ด้านการแพทย์เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บทางการกีฬา

นอกจากนี้นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยอินสบรุ๊ค ประเทศออสเตรีย พบว่ามะละกอมีสารต้านอนุมูลอิสระ สูงสุดเมื่อสุกงอม เนื่องจากคลอโรฟิลล์สีเขียวเปลี่ยนเป็นสารไม่มีสีที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระอย่างเยี่ยมยอดอีกชนิดหนึ่ง เรียก NCCs (nonfluorescing chlorophyll catabolytes) สะสมบริเวณเปลือกผลและใต้ผิวเปลือก เวลาปอกมะละกอสุกจึงไม่ควรกรีดริ้วบริเวณใต้เปลือกเพราะจะสูญเสียคุณค่าอาหารนี้ไป 

ป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด

มะละกออาจช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดแข็งตัวและโรคหัวใจที่มีสาเหตุจากโรคเบาหวานได้ดี มะละกอมีวิตามินซี วิตามินอีและวิตามินเอ (ในรูปของสารแคโรทีนอยด์) ซึ่งเป็นสารอนุมูลอิสระที่มีความสำคัญช่วยป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระของคอเลสเตอรอล เชื่อว่าวิตามินซีและอีช่วยการทำงานของเอนไซม์พาราออกโซเนสซึ่งหยุดการเกิดอนุมูลอิสระของคอเลสเตอรอล เส้นใยอาหารในมะละกอช่วยลดคอเลสเตอรอลส่วนกรดโฟลิกใช้เปลี่ยนกรดอะมิโฮโมซิสเทอีนเป็นกรดอะมิโนซิสเทอีนที่ไม่มีพิษภัยอะไร ถ้ามีโฮโมซิสเทอีนอยู่มากกรดอะมิโนนี้จะทำลายผนังหลอดเลือด เกิดความเสี่ยงของอาการหัวใจวายหรือหลอดเลือดสมองอุดตันได้

ช่วยระบบทางเดินอาหาร

สารอาหารในมะละกอช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง ลำไส้ใหญ่ เส้นใยอาหารจากมะละกอสามารถจับกับสารพิษก่อมะเร็งในลำไส้ใหญ่และพาส่งออกทำให้เกิดการสัมผัสกับเซลล์ลำไส้ใหญ่น้อยที่สุด และสารโฟเลต บีตาแคโรทีน วิตามินซีและอี ที่พบในมะละกอ จะมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ โดยลดการถูกทำลายของสารพันธุกรรมในเซลล์ดังกล่าวด้วยอนุมูลอิสระ 

ฤทธิ์ต้านอักเสบ

มะละกอมีเอนไซม์ปาเปนและไคโมปาเปนช่วยย่อยโปรตีน เอนไซม์เหล่านี้สามารถช่วยลดการอักเสบและกระตุ้นการสมานแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวกได้ งานวิจัยจากประเทศมาเลเซียพบว่า สารสกัดจากเปลือกผลมะละกอดิบเร่งอัตราเร็วของการสมานแผลในหนูทดลองได้เร็วกว่าการใช้ยาทา Solcoseryl ถึง 1 สัปดาห์ 

บีตาแคโรทีน วิตามินซีและอีในมะละกอก็มีฤทธิ์ลดการอักเสบเช่นกัน ดังนั้นผู้ป่วยโรคหอบหืด โรคข้อเสื่อม และข้ออักเสบรูมาตอยด์จะได้ประโยชน์จากการกินมะละกอเพื่อลดอาการของโรคดังกล่าว ปัจจุบันมีการใช้เอนไซม์จากมะละกอดังกล่าวผลิตเป็นยาเม็ด ลดอาการบวม การอักเสบจากบาดแผลหรือการผ่าตัดแล้ว 

ช่วยระบบภูมิคุ้มกัน

ร่างกายมนุษย์สามารถเปลี่ยนบีตาแคโรทีนที่ได้จากมะละกอสุกเป็นวิตามินเอและซีได้ เนื่องจากร่างกายต้องการวิตามินทั้งสองเพื่อเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ให้ทำหน้าที่ได้ราบรื่น จึงพบว่าการกินมะละกอ เป็นประจำอาจลดความถี่การเกิดไข้หวัดและการติดเชื้อในช่องหูได้ 

การป้องกันภาวะจอประสาทตาเสื่อม 

งานวิจัยตีพิมพ์ในต่างประเทศกล่าวว่าการกินผลไม้ 3 ครั้งต่อวันอาจลดความเสี่ยงของอาการภาวะจอประสาทตาเสื่อมในผู้สูงอายุ อันเป็นสาเหตุของการเสียการมองเห็นในผู้สูงอายุ เนื่องจากคนไทยกินมะละกอ ทั้งดิบหรือสุกอยู่เป็นปกติ ดังนั้นเราจึงมีความเสี่ยงในการเกิดโรคดังกล่าวลดลงในยามชรา 

ป้องกันโรคถุงลมปอดโป่งพองและมะเร็งปอด 

งานวิจัยของมหาวิทยาลัยรัฐแคนซัส สหรัฐอเมริกาพบว่า สารก่อมะเร็งจากบุหรี่ (benzo(a)pyrene) ทำให้เกิดการขาดวิตามินเอในสัตว์ทดลองที่ได้รับอาหารปกติ และเกิดอาการถุงลมปอดโป่งพอง แต่สัตว์ที่ได้รับวิตามินเอปริมาณมากแต่ได้รับสารดังกล่าวไม่พบว่ามีอาการถุงลมปอดโป่งพอง ผู้วิจัยจึงเชื่อว่าผู้ที่สูบบุหรี่หรือได้รับควันบุหรี่เป็นนิตย์ควรป้องกันตนเองโดยการกินอาหารที่มีวิตามินเอสูงเป็นประจำ และมะละกอสุกก็เป็นหนึ่งในอาหารดังกล่าว 

เมล็ดมะละกอใช้รักษามะเร็ง 

ที่ประเทศอินเดียกล่าวสืบทอดกันมาแต่บรรพบุรุษ ว่าเมล็ดมะละกอใช้รักษาโรคมะเร็งได้ งานวิจัยจากประเทศญี่ปุ่นรายงานเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ.2550 นี้ว่า เมล็ดมะละกอมีเอนไซม์ไมโรซิเนส และสารเบนซิลกลูโคซิโนเลตในปริมาณมาก สารเบนซิลกลูซิโนเลตนี้ส่วนใหญ่พบในพืชวงศ์คะน้า มีฤทธิ์ขับไล่สัตว์กินพืชในธรรมชาติ แต่มนุษย์ย่อยสารนี้โดยใช้เอนไซม์ไมโรซิเนส ได้สารต้านมะเร็ง งานวิจัยยังพบว่าสารสกัดเฮกเซนของเมล็ดมะละกอมีฤทธิ์ยับยั้งการสร้างสารซูเปอร์ออกไซด์ และมีฤทธิ์ฆ่าเซลล์มะเร็งแบบอะป๊อปโทซิส จะเห็นว่าเมล็ดมะละกอมีฤทธิ์ต้านมะเร็งได้จริงตามภูมิปัญญาการแพทย์อินเดีย แต่ต้องใช้เวลาอีกมากกว่าจะมีการพัฒนาเป็นยาแผนปัจจุบันได้ต่อไป


จากมะละกอมาเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ 

มะละกอ นอกจากกินเป็นผลไม้ได้อร่อยแล้ว ยังนำไปทำเป็นน้ำมะละกอ หรือชามะละกอได้ น้ำมะละกอ สุกช่วยลดกรดในกระเพาะอาหาร ช่วยการทำงานของลำไส้ ทำความสะอาดไต และยังเป็นยาระบายอ่อนๆอย่างดีอีกด้วย ส่วนชามะละกอดิบช่วยล้างระบบดูดซึมสารอาหาร คือ ล้างคราบไขมันที่ผนังลำไส้ซึ่งเกาะตัวที่ผนังลำไส้ ที่ขัดขวางการดูดซึมสารอาหารและวิตามินที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดด้วย ปัจจุบันมีน้ำมะละกอหมักจำหน่ายแพร่หลายในประเทศญี่ปุ่น ที่ทำเป็นผงบดแห้งก็มี แต่ประเทศไทยปลูกมะละกอได้ผลตลอดปีเรามาทำน้ำมะละกอสดดื่มกันเองดีกว่า 

น้ำมะละกอสุก

เลือกมะละกอที่สุกกำลังดี เนื้อไม่แข็ง หรือเละจนเกินไป เนื้อเนียน รสหวาน นำมะละกอสุกหั่นเอาแต่เนื้อครึ่งถ้วย น้ำเย็นจัด 1 ถ้วย ผง อบเชย 1/8 ช้อนชา เกลือป่น 1/4 ช้อนชา น้ำมะนาว 2 ช้อนชา ปั่นมะละกอกับน้ำเย็นจัด เกลือ น้ำมะนาวเข้าด้วยกัน รินใส่แก้ว โรยด้วยผงอบเชย ดื่มเย็นๆ ทันที

ชามะละกอจากผลมะละกอดิบ

ใช้มะละกอดิบไม่อ่อนเกินไปครึ่งผล ชาเขียว หรือชาจีน หรือชาใบหม่อน อย่างใดอย่างหนึ่ง เพิ่มดอกเก๊กฮวย ใบเตย หรือรากเตยไปด้วยถ้ามี ดอกเก๊กฮวยและใบเตยมีสรรพคุณบำรุงหัวใจ ส่วนรากเตยช่วยฟื้นฟูตับอ่อนให้มีกำลัง ปอกเปลือกมะละกอล้างน้ำให้สะอาด แล้วหั่นแบบชิ้นฟัก นำชิ้นมะละกอใส่หม้อ เติมน้ำ 3-4 ลิตร ตั้งไฟ (ใส่ดอกเก๊กฮวย หรือใบเตย หรือรากเตยตามชอบ) เมื่อน้ำเดือดสักพักหนึ่งยกหม้อลง ตักมะละกอ และดอกเก๊กฮวยออก ให้เหลือแต่น้ำ นำน้ำดังกล่าวไปชงชา ใส่ใบชาประมาณครึ่งกำมือ หลัง 5 นาทีกรองเอากากชาออก ทิ้งไว้ให้เย็นดื่มได้ทันที หรือบรรจุขวดเก็บไว้ในตู้เย็นได้ประมาณ 3 วัน 

สูตรโบราณจากประเทศอินเดียที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันให้เคี้ยวเมล็ดจากผลสุกสิบเมล็ดพร้อมกลืน ช่วยกระตุ้นระบบน้ำดี ย่อยไขมัน ล้างระบบทางเดินอาหาร และช่วยกระตุ้นการทำงานของตับ 

มะละกอเสริมความงามผิวพรรณ

เอนไซม์ปาเปนที่พบในมะละกอ ถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมอย่างแพร่หลาย ทั้งด้านเภสัชกรรม โรงผลิตเบียร์ โรงงานเครื่องหนัง อุตสาหกรรมเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์สปา เอนไซม์ปาเปนถูกใช้ในเครื่องสำอางได้เนื่องจากเอนไซม์ดังกล่าวสามารถย่อยสลายคอลลาเจนได้ ช่วยเร่งการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิว จึงใช้ทดแทนสารสังเคราะห์ แอลฟาไฮดรอกซีแอซิด (alphahydroxy acids; AHA) ได้ และมีคุณสมบัติช่วยย่อยโมเลกุลของโปรตีนด้วย ที่ผ่านมาประเทศไทยต้องนำเข้าเอนไซม์ปาเปนจากต่างประเทศ ปัจจุบันสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติได้สนับสนุนภาคเอกชนไทยผลิตเอนไซม์ปาเปนจากมะละกอดิบ พัฒนาเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์สปา ทดแทนกรดผลไม้ที่มีค่าความเป็นกรดสูง พร้อมลดการนำเข้าจากต่างประเทศปีละกว่า 60 ล้านบาท

สำหรับผู้ที่มีผิวแห้ง หรือมีปัญหาเรื่องสิวบนใบหน้า สามารถทำมาสก์มะละกอสุกใช้เอง เพื่อผิวหน้าที่อ่อนนุ่มได้ตามสูตรข้างล่างนี้ 

สูตรที่ 1

ใช้มะละกอสุกปอกเปลือกหั่นเป็นชิ้นๆ สัก 2-3 ชิ้น บดขยี้ด้วยช้อนจนละเอียด แล้วนำมะละกอ ดังกล่าวบดมาทาให้ทั่วใบหน้ายกเว้นรอบดวงตาทิ้งไว้สัก 10-15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ใช้สัปดาห์ละครั้ง ผิวที่แห้งจะเริ่มชุ่มชื้น นุ่มนวล กระชับขึ้น เป็นสูตรโบราณจากประเทศอินเดียใช้ลบริ้วรอยได้ดี 

สูตรที่ 2

เหมือนสูตรข้างบน แต่เมื่อบดเนื้อมะละกอ แล้วให้ผสมโยเกิร์ตรสธรรมชาติปริมาณพอข้นให้เข้ากัน ทิ้งส่วนผสมไว้สัก 5 นาที นำมาพอกหน้าและคอ แขน มือ ทิ้งไว้ 10-15 นาที ล้างออกด้วยน้ำสะอาด เสร็จแล้วทาครีมบำรุงทันที ผิวจะนุ่ม และใสขึ้นเรื่อยๆ ใช้สัปดาห์ละ 1-2 ครั้งจะลบริ้วรอยได้

มะละกอ...ผลไม้ธรรมดาๆ แต่มากไปด้วยคุณค่า บรรพบุรุษคนไทยนี่ช่างฉลาดหลักแหลมจริงๆ ที่ปลูกมะละกอไว้กินกันแทบทุกบ้านเลย ประกอบอาหารได้ทั้งคาวหวาน แถมใช้บำรุงความงามได้อีก อย่าลืมลองสูตรมาสก์พอกหน้ากันนะ ของดีของไทยยุคเศรษฐกิจพอเพียง



TAKE PAPAYA AS OFTEN AS YOU CAN


Originally native to southern Mexico and now cultivated in many tropical countries (including Brazil , India , Indonesia , South Africa , Vietnam and Sri Lanka ), the papaya plant has been touted by traditional healers for centuries as a source of powerful medicine. Not only is papaya fruit delicious and loaded with vitamins and phytochemicals, but other parts of the plant have been used historically to treat health problems too.
The study, recently published in theJournal of Ethnopharmacology, not only showed that papaya has a direct anti-tumor effect on a variety of malignancies, but it also documented for the first time that papaya leaf extract increases the production of key signaling molecules called Th1-type cytokines.
The research team found that papaya’s anti-cancer effects were strongest when cancer cells received larger doses of the papaya leaf extract — yet, unlike many mainstream cancer therapies, there were no toxic effects at all on normal cells.
The researchers hope to follow up these experiments by eventually testing the papaya cancer treatment in animal and human studies. Up next for Dr. Dang and his colleagues: they’ve applied to patent a process to distill the papaya extract through the University of Tokyo and they are working to identify all the specific compounds in the papaya extract that are active against cancer cells.
To this end, Dr. Dang has partnered with Hendrik Luesch, a UF Shands Cancer Center professor of medicinal chemistry who is an expert in the identification and use of natural products for medical purposes. Dr. Luesch recently discovered yet another natural cancer fighter — a coral reef compound that blocks cancer cell growth in cell lines.


Health Benefits
Sweet and tasty papaya makes an excellent breakfast and is good in fruit salads. It can be blended with yogurt to make a delicious digestive smoothie. It also works well as an added ingredient in green salads. It tastes particularly good with lemon juice squeezed over it. The health benefits of papaya include heart disease and cancer prevention, cold and flu prevention and healthy digestions.
Papaya Nutrition
Papaya is an excellent source of vitamin C, with one medium papaya containing about 150% of the Daily value. It is also a good source of vitamin A, in beta-carotene form. It is also a good source of vitamin K, vitamin E and folate as well as the mineral potassium.
Papaya for Heart Disease Prevention
One of the health benefits of papaya is related to the fact that it contains high doses of three vitamins involved in heart disease prevention- vitamin A, vitamin E and beta-carotene. In addition, the high levels of folate found in papayas can help lower levels of the heart disease promoting amino acid homocysteine.
Papaya for Cold and Flu Prevention
Foods high in vitamin C, such as papaya, help boost the immune system. Vitamin C has been shown to help ward off symptoms of influenza A, the common cold and pneumonia. Vitamin A provides additional immune system support.
Papaya for Neural Tube Defect Prevention
Because papayas are rich in folate, they have applications in preventing neural tube defects. Eating folate-rich foods pre-pregnancy and during pregnancy can help the fetal spinal column to develop normally.
Papaya for Digestive Health
Papaya contains special digestive enzymes, called papain and chymopapain, which help digest proteins. Papaya is often used as a detoxification food and to give the digestive system a break, because it is so rich in its own digestive enzymes. Papaya also contains anti-oxidant vitamins C and E as well as folate, all of which can help prevent colon cancer.

Papaya/Pawpaw apaya (Carica papaya) originates from tropical American
countries. Today Papaya is cultivated in most tropical countries around the world.


Dengue Fever Remedy

I would like to share this interesting discovery from a classmate's son who has just recovered from dengue fever. Apparently, his son was in the critical stage at the ICU when his blood platelet count drops to 15 after 15 liters of blood transfusion.

His father was so worried that he seeks another friend's recommendation and his son was saved. He confessed to me that he gave his son raw juice of the papaya leaves. From a platelet count of 45 after 20 liters of blood transfusion, and after drinking the raw papaya leaf juice, his platelet count jumps instantly to135. Even the doctors and nurses were surprised. After the second day he was discharged. So he asked me to pass this good news around.
Accordingly it is raw papaya leaves, 2pcs just cleaned and pound and squeeze with filter cloth. You will only get one tablespoon per leaf. So two tablespoonful serving once a day. Do not boil or cook or rinse with hot water, it will loose its strength. Only the leafy part and no stem or sap. It is very bitter
and you have to swallow it like "Wong Low Kat". But it works.
You may have heard this elsewhere but if not I am glad to inform you that papaya juice is a natural cure for dengue fever. As dengue fever is rampant now, I think it's good to share this with all.

A friend of mine had dengue last year. It was a very serious situation for her as her platelet count had dropped to 28,000 after 3 days in hospital and water has started to fill up her lungs. She had difficulty in breathing. She was only 32 years old. Doctor says there's no cure for dengue. We just have to wait for her body immune system to build up resistance against dengue and fight its own battle. She already had 2 blood transfusions and all of us were praying very hard as her platelet continued to drop since the first day she was admitted.

Furthermore it's so easily available. Blend them and squeeze the juice! It's
simple and miraculously effective!!

2013-01-18

ต้นไม้มีความรู้สึกเจ็บไหม


วันนี้ได้โพสรูปภาพนี้ในเฟสบุค เห็นถึงความอุตสาหะ พยายามของคนสวนที่ดัดต้นไม้เป็นรูปร่างที่สวยงาม โดยใช้เวลาถึง 60 ปี 

แล้วมีคนหนึ่งมาพูดว่า ต้นไม้มันคงทรมานและเจ็บน่าดู เลยสงสัยว่า ต้นไม้มีความรู้สึก หรือไม่ แต่ก็เคยได้ยินมาว่า บางสวน เปิดเพลงเพราะ ๆ ให้ต้นไม้ฟัง ต้นไม้จะงอกงามดี เลยไปค้น google มาก็เจอบทความนี้

ที่มา : http://www.ubmthai.com/leksoundsmf3/index.php?topic=49343.0

ผมพบกลอนของ “คึกฤทธิ์ ปราโมช” อีกบทหนึ่งแล้วครับ
                ท่านเขียนไว้ในคอลัมน์ “สยามรัฐหน้า ๕”  ฉบับวันที่ 6 มีนาคม  2516   ดังต่อไปนี้
                ๐ บานเย็นยิ้มพริ้มพรายอยู่ชายทุ่ง
                ต้นผักบุ้งหน้าคว่ำเพราะน้ำเน่า
                ลำดวนป่วนใจอยู่ไม่เบา
                กุหลาบเหงาเพราะต้องร้างห่างสามพราน
                มะลิโกรธโดนเก็บเจ็บทุกวัน
                มะม่วงบ่นว่าคันเพลี้ยกินก้าน
                เหลียวดูดอกชบาเห็นหน้าบาน
                ไม่รู้ว่าสำราญด้วยสิ่งใด
                น้ำตาหลิวไหลร่วงลงเผาะเผาะ
                แค้นใจเพราะคนเรียกหลิวร้องไห้
                มะพูดหน้าบูดอยู่ริมไพร
                เพราะโกรธกับต้นมะไฟแต่เช้าเอย ๐
                ที่กลอนออกมาแนวแปลก ๆ อย่างนี้  เพราะวันนั้นท่านเขียนถึงเรื่องต้นไม้มีความรู้สึกมีอารมณ์ !
                ท่านเขียนไว้ว่า
                “พูดถึงการให้ความเป็นธรรมกันแล้ว   ผมก็อยากจะบอกแก่ท่านผู้ที่ชอบปลูกต้นไม้ เล่นต้นไม้ทั้งหลายว่า  ขอได้โปรดให้ความเป็นธรรมแก่ต้นไม้ที่ท่านปลูกบ้าง
                เพราะนักวิทยาศาสตร์รุสเซียเขาได้ทดลองทางวิทยาศาสตร์กับต้นไม้เมื่อเร็ว ๆ นี้  แล้วได้ทราบว่าต้นไม้นั้นมันมีความรู้สึก มีอารมณ์  หรืออย่างที่พระท่านว่ามีเวทนาเหมือนกับคนเหมือนกัน
                กล่าวคือเมื่อพบกับสิ่งที่ดี สิ่งที่ถูกใจ  ก็บังเกิดความยินดีมีสุข
                เมื่อพบกับสิ่งที่ไม่ดี ไม่ถูกใจ  ก็เกิดความทุกข์ ความไม่พอใจ
                ทำไมเขาจึงรู้อย่างนี้ ?
                เขาทดลองด้วยการเอาเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ที่จะถ่ายทอดความรู้สึกจากคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่งได้นั้น  มาเชื่อมกันเข้าระหว่างคนกับต้นไม้ที่ตั้งเอาไว้ไกล ๆ  
                เมื่อเชื่อมโยงกันแล้ว  เขาก็สะกดจิตคน   เมื่อสะกดจิตคนแล้ว  เขาก็บอกคนที่ถูกสะกดจิตนั้น  ให้ดีใจให้มีความสุข
                คนที่ถูกสะกดจิตนั้นก็ยิ้มแย้มหรือหัวเราะ
              ความรู้สึกของคนที่ถูกสะกดจิตนั้นก็ผ่านไปยังต้นไม้  สังเกตดูดอกใบของต้นไม้ก็มีอาการเบิกบานขึ้น
         เมื่อเขาสั่งให้คนที่ถูกสะกดจิตมีความเสียใจและเป็นทุกข์
         ต้นไม้ที่ถูกเชื่อมโยงอยู่ด้วยนั้น  ก็แสดงอาการอาการกิ่งก้านใบตกลงเหมือนกับคนเป็นทุกข์
ความจริงเขาก็ไม่ได้ยืนยันหรอกครับว่าต้นไม้มีเวทนา  รู้ทุกข์รู้สุขได้  เขาบอกแต่เพียงว่าผลแห่งการทดลองครั้งนี้พิสูจน์ให้เห็นว่า  ระบบประสาทของต้นไม้และพืชนั้นเป็นระบบที่ใกล้เคียงกับระบบประสาทของมนุษย์  มีการเชื่อมโยงถ่ายทอดความรู้สึกกันได้
แต่เขาบอกว่าต้นไม้ทุกชนิดน่าจะมีความรู้สึก  และมีอารมณ์ยินดียินร้าย  เช่นเดียวกับมนุษย์เหมือนกัน
ได้ยินเรื่องนี้แล้วก็ใจหาย
เพราะผมก็เป็นคนบ้าปลูกต้นไม้อีกคนหนึ่ง
พูดด้วยใจจริง  ก็พยายามทำทุกอย่างที่จะให้ต้นไม้อยู่ดีกินดีมีสุข  เพื่อความเจริญเติบโตของต้นไม้
แต่บอกตรง ๆ เลยครับ   ว่าไม่เคยคิดว่าต้นไม้มันก็มีหัวใจ
เมื่อรู้ดังนี้แล้วก็เริ่มสงสัยว่า  การที่ผมได้ทำอะไรต่ออะไรต่อต้นไม้ด้วยความหวังดีต่อมันนั้น  ผมได้ทำให้ถูกใจมันหรือเปล่าก็ไม่รู้
การกระทำบางอย่างของผม  ไม่แน่ว่าจะทำให้มันดีใจหรือเสียใจ
บางครั้งก็อาจรดน้ำมากไปหรือน้อยไป  เพราะไม่รู้ว่าจะถูกใจต้นไม้แค่ไหน
บางครั้งไปลิดกิ่งก้านของมันด้วยความประสงค์ที่จะให้มันงอกงาม   มันจะเจ็บหรือเปล่าก็ไม่รู้
ที่สำคัญคือบางครั้ง  ผมอาจไปทำอะไรเชย ๆ ให้ต้นไม้มันหัวเราะด้วยความขบขันในความโง่ของผมบ้างหรือเปล่า  ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม   ถ้าหากต้นไม้มีเวทนาจริงแล้ว  ต้นไม้ก็มีทั้งรูป ทั้งเวทนา  เป็นขันธ์สองเข้าไปแล้ว
สัญญามันจะมีหรือไม่  ผมไม่ทราบ
ต้นไม้จะปรุงแต่งสังขารได้หรือไม่ด้วยตัวของมันเอง  ผมก็ไม่ทราบ
และต้นไม้จะมีวิญญาณหรือไม่  ผมก็ไม่แน่ใจนักอีกเหมือนกัน
รู้แต่ว่าต่อไปนี้จะทำอะไรกับต้นไม้ ดอกไม้ หรือผลไม้  จะต้องระวังตัวกว่าเดิม
และถ้าเป็นกวีแล้ว  จะต้องแต่งบทชมดงแตกต่างไปกว่าที่ท่านเคยแต่งกันมาแต่เดิม  ดังต่อไปนี้
๐ บานเย็นพริ้มพรายอยู่ชายทุ่ง                  ต้นผักบุ้งหน้าคว่ำเพราะน้ำเน่า
ลำดวนป่วนใจอยู่ไม่เบา                         กุหลาบเหงาเพราะต้องร้างห่างสามพราน
มะลิโกรธโดนเก็บเจ็บทุกวัน                 มะม่วงบ่นว่าคันเพลี้ยกินก้าน
เหลียวดูดอกชบาเห็นหน้าบาน               ไม่รู้ว่าสำราญด้วยสิ่งใด
น้ำตาหลิวไหลร่วงลงเผาะเผาะ              แค้นใจเพราะคนเขาเรียกหลิวร้องไห้
มะพูดยืนหน้าบูดอยู่ริมไพร                   เพราะโกรธกับต้นมะไฟแต่เช้าเอย ๐

2013-01-16


เพลงนี้เป็นของแสตมป์ อย่างที่รู้ ๆ กันอยู่ และเป็นศิลปินคนโปรดของเรา แต่ เสนาหอยก็นำมาร้องได้เพราะมาก แถมเป่าแซกโซโฟนแข่งกับ คุณโก้ได้ดีทีเดียว


เพลงประกอบภาพยนตร์ A Moment In June 

ยังเดินผ่านทุกวัน 
ที่ที่เราพบกันเมื่อก่อน 
ยังจำซ้ำๆ ได้ทุกตอน 
ราวกลับมีใครมาหมุน ย้อนเวลา 

แต่ก็คงจะหมุนย้อนได้แค่ในความคิด 
ในชีวิตจริง คงไม่เจอกันอีกแล้ว 
ยืนอยู่ตรงที่เดิม แต่ไม่มีวี่แวว 
เธอจากไปแล้ว และคงไม่ย้อนคืนมาหา 

ได้แต่ฝากความคิดของฉันเอาไว้ 
เผื่อวันไหนเธอผ่านมา 
เห็นที่เดียวกันนี้ เธอจะนึกขึ้นได้ว่า 
เคยมีคนนึงยืนข้างเธอ อยู่ตรงนี้เสมอตลอดมา 

ให้เธอสัมผัสความคิดที่ฉันทิ้งไว้ 
อาจไม่เห็นได้ด้วยตา 
ฉันจะฝากเอาไว้ อยู่ในพื้นดินและท้องฟ้า 
มันเป็นความคิดที่กระซิบว่า ฉันยังรักเธอ 

อยากเจอเธอเหลือเกิน 
เพราะก่อนที่เราต้องเดินแยกทาง 
ฉันมีความคิดหลายๆ อย่าง 
หลายอย่างเหลือเกิน ที่ฉันไม่ได้พูดไป 

แต่กลับมานึกขึ้นได้ในเวลานี้ 
ในเวลาที่เธอเดินจากฉันไปแสนไกล 
หากเธอนั้นยังอยู่ จะกอดเธอให้ชื่นใจ 
และค่อยพูดออกไป ทุกสิ่งที่อยู่ในใจฉัน 

ได้แต่ฝากความคิดของฉันเอาไว้ 
เผื่อวันไหนเธอผ่านมา 
เห็นที่เดียวกันนี้ เธอจะนึกขึ้นได้ว่า 
เคยมีคนนึงยืนข้างเธอ อยู่ตรงนี้เสมอตลอดมา 

ให้เธอสัมผัสความคิดที่ฉันทิ้งไว้ 
อาจไม่เห็นได้ด้วยตา 
ฉันจะฝากเอาไว้ อยู่ในพื้นดินและท้องฟ้า 
มันเป็นความคิดที่กระซิบว่า ฉันยังรักเธอ 

ให้เธอสัมผัสความคิดที่ฉันทิ้งไว้ 
อาจไม่เห็นได้ด้วยตา 
ฉันได้ฝากเอาไว้ อยู่ในพื้นดินและท้องฟ้า 
มันเป็นความคิดที่กระซิบว่า

2013-01-14

PETE POL - เรียนรู้...อยู่คนเดียว (OFFICIAL MUSIC VIDEO)



ทนอยู่กับเธอมานานแสนนาน 
ทรมานมานานเหลือเกินจนใจเริ่มหน่าย 
ทนที่จะยอมทำความเข้าใจ 
ในสิ่งที่เธอได้ทำทุกอย่างมาวันนี้รับมันไม่ไหว 

เหนื่อยแล้วอยากจะพักเรื่องรักของเรา 
จบแล้วหยุดแค่นี้มันคงดีกว่า 
อาจจะเหงาในบางเวลาและบางครั้งต้องเสียน้ำตา 
แต่จะยอมเรียนรู้เพื่ออยู่คนเดียว 

รักที่เรามีมันไม่แน่นอน 
ฉันก็คงจะไม่อ้อนวอนขอความมั่นใจ 
รู้ว่าตัวเธอคงให้ไม่ได้ 
และฉันก็คงเลือกที่จะไปพอกันเสียที 

เหนื่อยแล้วอยากจะพักเรื่องรักของเรา 
จบแล้วหยุดแค่นี้มันคงดีกว่า 
อาจจะเหงาในบางเวลาและบางครั้งต้องเสียน้ำตา 
แต่จะยอมเรียนรู้เพื่ออยู่คนเดียว 

ไม่มีเธอแล้ว 

เหนื่อยแล้วอยากจะพักเรื่องรักของเรา 
จบแล้วหยุดแค่นี้มันคงดีกว่า 
อาจจะเหงาในบางเวลาและบางครั้งต้องเสียน้ำตา 
แต่จะยอมเรียนรู้เพื่ออยู่คนเดียว 

แต่ต้องยอมเรียนรู้เพื่ออยู่คนเดียว

Song-I Am Here For You

เพิ่งเคยได้ฟังเพลงนี้ เปิดไปเจอในยูทูป ชอบมากเลย เนื้อเพลงหวาน คนร้องก็น่ารักทั้งคู่ ดูแล้วกระดี้กระด้า ชื่นฉ่ำหัวใจมาก อยากกลับไปเป็นสาว แล้วมีใครมาร้องเพลงนี้ให้ฟังมั่งจัง อยากมีใครสักคนที่จะอยู่เคียงข้างเราเสมอ ไม่หนีหายยามเราต้องการ


-----------------------------------


เนื้อเพลง เพลง I'm Here For You - 
พล Clash แคลช Feat.ซีต้า ซาไลย์ อัลบั้ม NINE MISS U 2 
ก็ฟ้ามีดาวที่คอยเป็นแสงสว่าง
ทะเลไม่เคยอ้างว้าง
เพราะทรายโอบกอดเอาไว้
ให้ฉันเป็นดาวที่คอยทอแสงสว่าง
เมื่อไรที่เธออ้างว้าง
จะคอยกอดเธอเอาไว้

ในชีวิตไม่เคยได้คิดจะเจอ สักคน
บนโลกที่เปลี่ยนไปฉันรอแต่เธอเสมอ

ก่อนตัวของฉัน และใจของฉันจะรักเธอไป
ช่วยบอกอีกทีได้ไหม
ว่ามันไม่ใช่ความฝัน
หนึ่งคนจากเป็นล้านล้าน
คนเดียวของฉันโปรดรู้คือเธอ
ไม่ว่าจะเจออะไร จะดีหรือร้ายแค่ไหน I'm Here For You

ไม่ขออะไรมากมายให้ต้องลำบาก
เชื่อใจต่อกันสักครั้ง
ฉันจะไม่ทำเธอเสียใจ
ก็เพราะดวงดาวต้องไปเมื่อฟ้าสว่าง
ทะเลก็มีบางครั้ง
ซบดวงตะวันปลายฟ้าไกล

ในชีวิตเจ็บจนไม่คิดจะยอม รักใคร
ลืมเรื่องที่ผ่านไปฉันไม่ใช่คนอย่างนั้น

ก่อนตัวของฉัน และใจของฉันจะรักเธอไป
ช่วยบอกอีกทีได้ไหม
ว่ามันไม่ใช่ความฝัน
หนึ่งคนจากเป็นล้านล้าน
คนเดียวของฉันโปรดรู้คือเธอ
ไม่ว่าจะเจออะไร จะดีหรือร้ายแค่ไหน

ก็จะไม่กลัวอะไร
ถ้ามีเธอเดินจับมือเผชิญด้วยกัน
มันอาจจะอันตราย แต่ลองกับเธอสักครั้ง

ก่อนตัวของฉัน และใจของฉันจะรักเธอไป
เธอไม่ต้องกลัวอะไรเพราะมันไม่ใช่ความฝัน
หนึ่งคนจากเป็นล้านล้าน
คนเดียวของฉันโปรดรู้คือเธอ
ไม่ว่าจะเจออะไร จะดีหรือร้ายแค่ไหน

ก่อนตัวของฉัน และใจของฉันจะรักเธอไป
ช่วยบอกอีกทีได้ไหม
ว่ามันไม่ใช่ความฝัน
หนึ่งคนจากเป็นล้านล้าน
คนเดียวของฉันโปรดรู้คือเธอ
ไม่ว่าจะเจออะไร จะดีหรือร้ายแค่ไหน

ก็จะไม่กลัวอะไรถ้าเธอไม่ไปที่ไหน
เธออย่าไปกลัวอะไร Caz I Am Here For You



2013-01-13

การถูกรัก ให้ความรู้สึกที่ดีมาก ๆ ทำให้รู้ว่าตัวเองมีค่า มีคนต้องการ เมื่อใดขาดคนรัก ก็อ้างว้าง ว้าเหว่ รู้สึกหมดความมั่นใจ

แต่เมื่ออายุมากขึ้น ก็รู้ได้ว่า ไม่มีใครรัก ก็จงรักตัวเอง รักให้มาก หวังดีต่อตัวเองให้มาก อะไร หรือ ใคร ที่จะมาทำให้เราผิดหวัง สูญเสีย ก็พยายามหลีกเลี่ยง เลยเหมือนกลัวการมีรักใหม่ ไม่มั่นใจว่า จะมีใครมารักเราจริงหรือเปล่า

อารมณ์และความรู้สึก บางทีมันก็จัดสรรยาก ห้ามยาก ไม่ให้คิดนั่นคิดนี่ คิดเล็กคิดน้อย ต้องรักษาจิตให้มั่น ไม่หวั่นไหว แต่ก็อยากมีอยู่เสมอ

ใครบ้างไม่อยากถูกรักและบอกรัก

I wanna call the stars Down from the sky I wanna live a day That never dies I wanna change the world Only for you All the impossible I wanna do

I wanna hold you close Under the rain I wanna kiss your smile And feel the pain I know what's beautiful Looking at you In a world of lies You are the truth

And baby Every time you touch me I become a hero I'll make you safe No matter where you are And bring you Everything you ask for Nothing is above me I'm shining like a candle in the dark When you tell me that you love me

I wanna make you see Just what I was Show you the loneliness And what it does You walked into my life To stop my tears Everything's easy now I have you here

And baby Every time you touch me I become a hero I'll make you safe No matter where you are And bring you Everything you ask for Nothing is above me I'm shining like a candle in the dark When you tell me that you love me

In a world without you I would always hunger All I need is your love to make me stronger

And baby Every time you touch me I become a hero I'll make you safe No matter where you are And bring you Everything you ask for Nothing is above me I'm shining like a candle in the dark When you tell me that you love me

You love me When you tell me that you love me

2013-01-12

นางหลายใจ

หาชื่อเพลงนี้มาตั้งแต่เด็ก ๆ เพิ่งรู้ว่า ชื่อ นางหลายใจ ชอบทำนองและเนื้อร้อง เพื่อนเคยร้องตอนไปนำเที่ยวต่างจังหวัด แล้วมันติดหูมาตลอด เคยให้น้องชายร้องและเล่นกีร์ต้าให้ฟัง แต่เขาก็ไม่มั่นใจเรื่องชื่อเพลง เพิ่งจะเห็นในยูปทูปวันนี้ เลยเอามแปะไว้กันลืม พร้อมภาพประกอบเกี่ยวกับ ความหลายใจของคนเรา ก็จริงนะ ภ้าเรารักเขามากพอ เราคงไม่รักคนใหม่ ไม่ต้องมานั่งคิดว่าจะเลือกใคร ก็คงต้องเลือกคนที่ 2 แหละ นางหลายใจ ขับร้องโดย ประทีป

ประโยชน์ของแอปเปิ้ลและกล้วยหอม

ประโยชน์ของ แอปเปิ้ลและ กล้วยหอม จากบทความนี้ เป็นการเสริมความคิดเกี่ยวกับประโยชน์ของผลไม้ทั้งสองชนิด ที่หาซื้อง่าย กินอร่อย และเหมาะกับการบริโภคที่สุด แต่กล้วยหอม ช่วงนี้แพงมาก ๆ เลย คงไม่ใช่เพราะบทความสนับสนุนการกินกล้วยหอม ที่เดี๋ยวนี้ออกมากันเยอะแยะ และโลกออนไลน์ที่ข่าวสารถึงกันในชั่วพริบตาเดียว แถมคนเลือกที่จะเชื่อทันที ------------------------------------------------------------------------------------------ เรามาดูประโยชน์ของแอปเปิ้ลและกล้วยหอมกันค่ะ แอปเปิ้ล: ช่วยป้องกันภาวะสมองเสื่อม, ลดระดับคอลเลสเตอรอลในเลือด, ลดความเสี่ยงโรคมะเร็งที่ปอด ลำไส้ ต่อมลูกหมากในเพศชาย และช่วยควบคุมน้ำหนัก กล้วยหอม: ช่วยบำรุงรักษาสายตา ทำให้การมองเห็นตอนกลางคืนดีขึ้น, ป้องกันความดันโลหิตสูง, การป้องกันแผลในกระเพาะอาหาร, ช่วยให้กระดูกแข็งแรง, ช่วยทดแทนเกลือแร่จากภาวะท้องเสีย และลดความเสียงโรคมะเร็งที่ไต ผลไม้ทั้งสองชนิดนี้มีประโยชน์มากมาย ควรรับประทานเป็นประจำเพื่อสุขภาพนะคะ cr: Edible Harmony