คนไทยอ้วนมากไปแล้ว กระทรวงสาธารณสุขเตือนมานานแล้วว่ามีคนไทยอ้วนมากขึ้น
สถิติการตายแสดงว่าคนไทยตายด้วยโรคหัวใจมากที่สุด รองลงมาจึงเป็นอุบัติเหตุ และตามมาเป็นอันดับสาม คือโรงมะเร็ง
โรคหัวใจ เป็นโรคของอ้วน เมื่อคนอ้วนมากขึ้น คนเป็นโรคหัวใจก็มากขึ้น สมัยก่อนไม่ค่อยมีคนอ้วน สมัยนี้ไปที่ไหนจะพบคนอ้วนมากมาย ที่น่าห่วงคือเด็กอ้วน ทุกโรงเรียนมีเด็กอ้วนมากขึ้นทุกปี
คนที่อ้วนตั้งแต่เล็ก เมื่อโตขึ้นจะอ้วนง่ายกว่า และลดน้ำหนักยากกว่าคนที่อ้วนเมื่ออายุมาก เด็กกำลังเติบโต เมื่ออ้วนจะมีจำนวนเซลล์ไขมันมาก แต่ละเซลล์ขยายใหญ่ขึ้นเมื่อร่างกายสะสมไขมัน จึงอ้วนเพราะเซลล์ไขมันมาก และแต่ละเซลล์มีไขมันอยู่มาก
ผู้ใหญ่ที่อ้วนหลังจากอายุเกิน 25 ปี จะไม่มีเซลล์ไขมันเพิ่ม แต่ขนาดของเซลล์ใหญ่ขึ้น เมื่ออายุมากขึ้น การเคลื่อนไหวร่างกายลดลง ใช้พลังงานน้อยลง แต่กินอาหารเท่าเดิมหรือมากขึ้น จึงอ้วนขึ้น คนทั่วไปจะเพิ่มน้ำหนักตัวระหว่างอายุ 25 ถึง 55 ปี ประมาณปีละ 250 กรัม หรือน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นหนึ่งกิโลกรัมทุกสี่ปี
มีหลายสาเหตุที่ทำให้คนอ้วน พันธุกรรม การกินอาหารและการออกกำลังกายประกอบกัน ทำให้บางคนอ้วน บางคนไม่อ้วน นิสัยส่วนตัวบางคนไม่ชอบอยู่นิ่ง วิ่งไปวิ่งมาทั้งวัน ใช้พลังงานมาก บางคนนั่งอยู่กับที่ เล่นเขียน อ่าน วาดรูป เล่นดนตรี ใช้พลังงานน้อย คนที่ใช้พลังงานมากจะไม่อ้วน คนใช้พลังงานน้อย โอกาสจะอ้วนมากกว่า คนนั่งอยู่กับที่มักจะกินเก่งอีกด้วย นิสัยส่วนตัวจึงมีผลมากที่จะทำให้อ้วน
วิถีชีวิตของคนสมัยใหม่ทำให้อ้วนง่าย เด็กสมัยนี้เล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ เล่นเครื่องเล่นเกมกด กินอาหารร้านอาหารจานด่วน กินเองที่บ้านก็เป็นไส้กรอก ขนมปัง บะหมี่สำเร็จรูป สถาบันวิจัยโภชนาการของมหาวิทยาลัยมหิดล สำรวจการกินอาหารของเด็กนักเรียนพบว่ากินผักน้อยเกินไป กินอาหารหวานและมีไขมันมาก กินไก่ทอด ข้าวผัด ผัดกะเพรา กินขนมทำจากมันฝรั่งทอดกรอบ แป้งข้าวโพดทอดกรอบ ดื่มน้ำหวาน นมหวาน ไม่ได้กินผักผลไม้มากพอ ทำให้เด็กอ้วน โตขึ้นเป็นคนอ้วน
หนุ่มสาวมีครอบครัวใหม่ไม่ทำอาหาร ซื้อกินสะดวกและเร็ว บ้านไม่สกปรก ไม่มีกลิ่นอาหาร จึงอ้วนกันมาก คนที่สนใจเรื่องสุขภาพ เลือกกินอร่อยแล้วไปเสียเงินออกกำลังกายตามสถานออกกำลังกาย แต่ทำได้ไม่นานจะเบื่อ รู้สึกว่าต้องออกกำลังตั้งนาน ใช้พลังงานไปนิดเดียวต้องออกกำลังกายและเลือกกินอาหารลดไขมันด้วยจึงจะได้ผล ถึงจะไม่ชอบทำอาหาร แต่เลือกกินอาหารไขมันน้อยได้ อาจต้องเปลี่ยนนิสัยการกิน ตามใจปากให้น้อยลง หากิจกรรมออกกำลังกายที่ไม่น่าเบื่อ เดินขึ้นลงบันไดวันละหลายๆครั้ง สิ่งสำคัญคือรักษาน้ำหนักตัวให้เหมาะสม ถ้าไม่อ้วนไม่ต้องลดน้ำหนัก
มีคำแนะนำวิธีตรวจสอบความอ้วนหลายวิธี วิธีง่ายและเร็วคือวัดเส้นรอบเอว สำหรับผู้หญิง ถ้าวัดรอบเอวเกิน 32 นิ้ว หรือผู้ชายวัดรอบเอวเกิน 36 นิ้ว นับว่าอ้วนมากเกินไปไขมันส่วนเกินในร่างกายสะสมอยู่รอบเอว ไม่มีกระดูกและกล้ามเนื้อรอบๆเอว เอวหนาเกินไป เป็นไขมันทั้งหมด จะเกาะรอบอวัยวะภายใน ขัดขวางการทำงาน จึงควรลดน้ำหนัก แต่ควรให้แพทย์ตรวจร่างกาย และให้คำแนะนำวิธีลดน้ำหนักที่เหมาะสม
คนอ้วนก็มีสุขภาพดีได้ ถ้าได้ตรวจร่างกาย ตรวจสารในเลือดโดยแพทย์ที่ไว้ใจได้ ไม่ใช้ความรู้สึกส่วนตัว ไม่ลดน้ำหนักเองเพราะอยากแต่งตัวสวย ถ้ารูปร่างไม่อ้วนไม่ผอมจนเกินไป แต่งตัวได้ง่าย หาซื้อเสื้อผ้าก็ง่าย และความรู้สึกสบายดี อ้วนมากอุ้ยอ้าย เหนื่อยง่าย วิ่งไม่ไหว ควรลดน้ำหนักลงบ้าง อยากเห็นเยาวชนคนไทยรูปร่างสวยพอดี คนไทยผิวสวย หน้าตาดีอยู่แล้ว คนสวยจะทำอะไรก็น่าดู ตัวเองมีความพอใจ ความสุขสบายตามมาเอง
การลดน้ำหนักที่ได้ผล คือการลดร้อยละห้าถึงสิบของน้ำหนักก่อนลด ไม่ใช่ลดจนได้น้ำหนักตัวที่เหมาะสมสำหรับคนทั่วไป การลดมากเกินไปทำได้ยาก และเมื่อลดแล้วจะกลับคืนอย่างเดิมหรือมากขึ้นทุกราย ลดเพียงร้อยละห้าจะลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคได้มาก
อาหารลดน้ำหนักในท้องตลาดมีมากมาย มีการแนะนำต่างๆนานา ให้กินสิ่งใดสิ่งหนึ่งมีทั้งยา ทั้งอาหารเสริม ไม่เคยมีสารใดลดน้ำหนักได้ผล ยิ่งถ้าเป็นอาหารเสริม กินหลายๆมื้อจะเบื่อจนทนไม่ได้ อดกินอาหารที่คนอื่นๆเขากินไม่ได้ ต้องได้กินอาหารธรรมดา เพียงแต่ปรับการใช้ส่วนประกอบ ให้มีไขมันลดลง
เคยได้ยินคำแนะนำบางแห่งให้ตัดข้าว แป้ง และน้ำตาลออกให้หมด มีการกำหนดอาหารโลคาร์บ คืออาหารคาร์โบไฮเดรต บางแห่งให้ตัดไขมันและน้ำมันออกให้หมด จะเป็นอันตราย เพราะขาดสารที่จำเป็นต่อการทำงานของร่างกาย ถ้าตัดแป้งและน้ำตาลออกหมด สมองจะขาดอาหาร เกิดอาหารมึนงง เวียนศีรษะ เป็นลม ถ้าขาดไขมันจะหิวมาก ขาดกรดไขมันที่จำเป็น ขาดวิตามินเอ ดี อี และเค ซึ่งเป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน เราต้องได้รับทั้งโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน เกลือแร่ และน้ำในอาหารทุกมื้อ อยากลดน้ำหนัก แต่ถ้าต้องกินของไม่ชอบคงยากไม่มีใครจะกินอาหารที่ไม่อร่อย เมื่อจะควบคุมน้ำหนัก ต้องมีทางเลือกที่น่ากิน อร่อย และหากินง่าย จะต้องกินเป็นประจำทุกมื้อทุกวันเป็นเวลานาน ต้องเปลี่ยนวิถีชีวิตการกินอาหารอย่างถาวร ต้องเปลี่ยนรสอาหารที่ชอบ เริ่มจากลดหวาน มัน เค็ม ไม่เติมน้ำตาลในอาหารที่ซื้อมา เลือกกินยำที่ปรุงรสด้วยรสเปรี้ยวและเค็มเท่านั้น ไม่เติมน้ำตาล กินผัก กินผลไม้มาก
การลดน้ำหนักจะต้องไม่ทำให้เกิดความหิวอย่างรุนแรง ไม่ทำให้เบื่อ ไม่เครียด ต้องได้กินของที่ชอบ เพียงลดน้ำตาลและไขมัน ต้องออกกำลังกายพร้อมๆกับปรับอาหาร ทำแต่เพียงให้น้ำหนักลดลงทีละน้อย แม้แต่การรักษาน้ำหนักตัวไม่ให้เพิ่มขึ้น ก็เป็นการดูแลตัวเองที่ดีมากและจะรักษาสุขภาพได้อย่างยั่งยืนจริงๆ
ขอบคุณบทความจาก : http://blog.eduzones.com/hotnews2010/44616
และรูปภาพจากอินเตอเนท
No comments:
Post a Comment