ผักคึ่นช่าย ช่วยรักษาโรค
คึ่นช่าย หรือภาษาอังกฤษเรียกCelery หรือ Smallage เป็นไม้ล้มลุกชนิดหนึ่ง
ใบคล้ายผักชีแต่โตกว่า
กลิ่นฉุนนิยมนำมาปรุงเป็นอาหารหลายอย่างเช่น
ใส่ในข้าวต้ม ผัดปู เป็นต้น
ใบ ลำต้น และเมล็ดล้วนเป็นยาได้
นิยมใช้ลำต้นและใบมาปรุงอาหาร และแต่งกลิ่นอาหารบางชนิด
โดยเฉพาะใช้ดับคาวปลา และเนื้อ
วิธีการเก็บคึ่นฉ่ายและผักกาดหอมให้นานเก็บใส่ห่อกระดาษ
เป็นไม้ล้มลุกอายุ1-2ปีไม่ชอบน้ำขัง
คึ่นช่ายเป็นพืชที่เจริญเติบโตได้ดีในดินเค็ม
ขึ้นในดินร่วนเบา ดินปนทรายเป็นผักที่มีอายุสั้นถ้าได้ดินดีก็จะเจริญงอกงามเร็ว
นิยมปลูก2พันธุ์คือ พันธุ์จีน และ พันธุ์ฝรั่ง
รดน้ำทั้งเช้าเย็นให้ชุ่มอยู่เสมออย่าให้เฉอะแฉะเกินไปใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยวิทยาศาสตร์พรวนดินทุกครั้งประมาณ90วันย้ายกล้ามาปลูก วิธีการเก็บจะใช้การถอนออกมาทั้งรากควรรดน้ำก่อนเพื่อให้ดินไม่แข็งจะได้ถอนง่ายขึ้น
ต้นคึ่นช่ายที่บ้านปลูกโดยการซื้อต้นจากตลาด ใช้รากที่เหลือจากเด็ดใบไปปรุงอาหารแล้ว ตัดให้เหลือแต่ใบที่ยอดเอามาปลูกในกระถาง ไม่นานก็มีใบใหม่งอกขึ้นมา เวลาจะนำไปใส่อาหารก็ตัดแต่ใบแก่ไปกินได้เรื่อยๆ
ประโยชน์
สรรพคุณทางยาของคึ่นช่ายเหล่านี้ชาวยุโรปรู้จักกันดี
ถ้าไปค้นในประวัติศาสตร์โบราณของยุโรปก็จะพบว่ามีการใช้สมุนไพรชนิดนี้อย่างกว้างขวาง
รวมไปถึงมีการแนะนำให้ใช้คึ่นช่ายเพื่อรักษาโรคนอนไม่หลับ โรคอ้วน โรคประสาท มะเร็งหลายชนิด
ใช้ขับประจำเดือน และกินแล้วทำให้เกิดการแท้งลูกได้
รวมทั้งยังเชื่อว่าคึ่นช่ายยังมีฤทธิ์ในการกระตุ้นกำหนัดและบำรุงประสาทอีก ด้วย
ชาวกรีกโบราณมีการทำไวน์คึ่นช่ายเพื่อให้นักกีฬากิน และใช้เป็นยาสมุนไพรมาอย่างยาวนาน
ชาวเอเชียรู้จักใช้คึ่นช่ายเป็นยาลดความดันมาประมาณ 2000 ปี
ชาวจีน ชาวเวียดนามแนะนำให้รับประทานคึ่นช่ายวันละ 4 ต้น
เพื่อรักษาความดันให้เป็นปกติ แพทย์อายุรเวทในอินเดียจะสั่งจ่ายเมล็ดคึ่นช่ายเพื่อขับปัสสาวะสำหรับผู้ป่วยที่บวมน้ำ
- ราก แก้จุกเสียด ขับน้ำเหลืองเสีย ขับปัสสาวะ ต้น ขับระดู แก้ความดันโลหิตสูง ขับปัสสาวะ แก้อาการเมา เหล้า แก้อาเจียน รับประทานมากทำให้เป็นหมันได้
- ใบ แก้โรคความดันโลหิตสูง แก้อาการตกเลือด แก้โรคลมพิษ เมล็ด ขับลม ขับระดู ขับปัสสาวะ แก้อาการเกร็งของกล้ามเนื้อเป็นยาบำรุง บำรุงหัวใจ ทั้งต้น ลดความดันโลหิต ขับระดู เป็นต้น
* มีน้ำมันหอมระเหย ช่วยขับลม เหมาะสำหรับคนเป็นโรคไต
* นอกจากนี้ยังใช้สำหรับการรักษาหวัด หวัดใหญ่
อาจเนื่องมาจากคึ่นช่ายเป็นผักที่มีวิตามินซีสูงมากชนิดหนึ่ง
* ในผักคึ่นช่ายมีน้ำมันหอมระเหยอยู่ด้วย จึงมีสรรพคุณในการช่วยย่อยอาหาร
* มีการนำมาใช้เป็นยาแก้ข้ออักเสบ โรคเก๊า ลดบวม
* คุมกำเนิด ลดจำนวนอสุจิ
* ลดระดับน้ำตาลในเลือด
* ช่วยทำให้หัวใจและหลอดเลือดแข็งแรง
* ลดคลอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์
* ยับยั้งการเกิดมะเร็ง ยับยั้งเนื้องอก สามารถต้านอนุมูลอิสระ
* ต้านการอักเสบ ทำให้กล้ามเนื้อเรียบบีบตัว
* มีฤทธิ์กล่อมประสาท
* ลดความดันโลหิต (hypertension) และโคเลสเตอรอลในเลือด โดยใช้คึ่นฉ่ายสด (ไม่เอาราก) ล้างให้สะอาดคั้นเอาแต่น้ำ เติมน้ำผึ้งหรือเชื่อมจำนวนเท่ากัน กินครั้งละ 40 มิลลิลิตร วันละ 3 ครั้ง (อุ่นก่อนกิน)
ใช้คึ่นช่ายประมาณ 4 ก้านทุกวัน ไม่นานนักพบว่าความดันลดลงจาก 158/96 เหลือ 118/82 พบว่าความดันโลหิตสูงลดลงร้อยละ 15 และโคเลสเตอรอลลดลงร้อยละ 7
โรคความดันโลหิตสูงจะพาชีวิตของเราป่วยไข้ได้อีกหลายโรค
เนื่องจากโรคนี้ทำให้หัวใจต้องทำงานหนักซึ่งอาจจะทำให้เกิดโรคหัวใจวาย
และเป็นปัจจัยเสี่ยงอันดับหนึ่งของโรคอัมพาต
นอกจากนี้ยังพาเราให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ โรคไต
โรคหลอดเลือดแดงแข็ง เป็นต้น
ผู้ป่วยโรคนี้ต้องทำการลดน้ำหนัก บริโภคอาหารที่มีปริมาณเกลือลดลง
รับประทานผักและผลไม้ให้มาก เนื่องจากผักและผลไม้จะมีโปแตสเซียมจำนวนมากซึ่งจะช่วยลดความดันโลหิตได้
และควรงดการดื่มสุรา
สำหรับท่านที่ต้องการใช้สมุนไพรเพื่อช่วยคุมความดันให้อยู่ในระดับปกตินั้น สมุนไพรชนิดหนึ่งที่มีความปลอดภัยสูงและมีการใช้ลดความดันกันอย่างแพร่หลาย คือ “คึ่นช่าย”
ทีมาของข้อมูล
http://www.thaigoodview.com/library/iam/healthy06/upyes/upyes.html
http://www.homedd.com/HomeddWeb/servlet/homedd.A_garden.frontweb.FwVegetOurList?hidPage_id=1&hID=294&hMode=Our
http://www.thaigoodview.com/library/studentshow/st2545/5-4/no40/kenchay.html
http://www.bangsakae.org/article-detail.php?id=33
สรรพคุณทางยาของคึ่นช่ายเหล่านี้ชาวยุโรปรู้จักกันดี
ถ้าไปค้นในประวัติศาสตร์โบราณของยุโรปก็จะพบว่ามีการใช้สมุนไพรชนิดนี้อย่างกว้างขวาง
รวมไปถึงมีการแนะนำให้ใช้คึ่นช่ายเพื่อรักษาโรคนอนไม่หลับ โรคอ้วน โรคประสาท มะเร็งหลายชนิด
ใช้ขับประจำเดือน และกินแล้วทำให้เกิดการแท้งลูกได้
รวมทั้งยังเชื่อว่าคึ่นช่ายยังมีฤทธิ์ในการกระตุ้นกำหนัดและบำรุงประสาทอีก ด้วย
ชาวกรีกโบราณมีการทำไวน์คึ่นช่ายเพื่อให้นักกีฬากิน และใช้เป็นยาสมุนไพรมาอย่างยาวนาน
ชาวเอเชียรู้จักใช้คึ่นช่ายเป็นยาลดความดันมาประมาณ 2000 ปี
ชาวจีน ชาวเวียดนามแนะนำให้รับประทานคึ่นช่ายวันละ 4 ต้น
เพื่อรักษาความดันให้เป็นปกติ แพทย์อายุรเวทในอินเดียจะสั่งจ่ายเมล็ดคึ่นช่ายเพื่อขับปัสสาวะสำหรับผู้ป่วยที่บวมน้ำ
- ราก แก้จุกเสียด ขับน้ำเหลืองเสีย ขับปัสสาวะ ต้น ขับระดู แก้ความดันโลหิตสูง ขับปัสสาวะ แก้อาการเมา เหล้า แก้อาเจียน รับประทานมากทำให้เป็นหมันได้
- ใบ แก้โรคความดันโลหิตสูง แก้อาการตกเลือด แก้โรคลมพิษ เมล็ด ขับลม ขับระดู ขับปัสสาวะ แก้อาการเกร็งของกล้ามเนื้อเป็นยาบำรุง บำรุงหัวใจ ทั้งต้น ลดความดันโลหิต ขับระดู เป็นต้น
* มีน้ำมันหอมระเหย ช่วยขับลม เหมาะสำหรับคนเป็นโรคไต
* นอกจากนี้ยังใช้สำหรับการรักษาหวัด หวัดใหญ่
อาจเนื่องมาจากคึ่นช่ายเป็นผักที่มีวิตามินซีสูงมากชนิดหนึ่ง
* ในผักคึ่นช่ายมีน้ำมันหอมระเหยอยู่ด้วย จึงมีสรรพคุณในการช่วยย่อยอาหาร
* มีการนำมาใช้เป็นยาแก้ข้ออักเสบ โรคเก๊า ลดบวม
* คุมกำเนิด ลดจำนวนอสุจิ
* ลดระดับน้ำตาลในเลือด
* ช่วยทำให้หัวใจและหลอดเลือดแข็งแรง
* ลดคลอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์
* ยับยั้งการเกิดมะเร็ง ยับยั้งเนื้องอก สามารถต้านอนุมูลอิสระ
* ต้านการอักเสบ ทำให้กล้ามเนื้อเรียบบีบตัว
* มีฤทธิ์กล่อมประสาท
* ลดความดันโลหิต (hypertension) และโคเลสเตอรอลในเลือด โดยใช้คึ่นฉ่ายสด (ไม่เอาราก) ล้างให้สะอาดคั้นเอาแต่น้ำ เติมน้ำผึ้งหรือเชื่อมจำนวนเท่ากัน กินครั้งละ 40 มิลลิลิตร วันละ 3 ครั้ง (อุ่นก่อนกิน)
ใช้คึ่นช่ายประมาณ 4 ก้านทุกวัน ไม่นานนักพบว่าความดันลดลงจาก 158/96 เหลือ 118/82 พบว่าความดันโลหิตสูงลดลงร้อยละ 15 และโคเลสเตอรอลลดลงร้อยละ 7
โรคความดันโลหิตสูงจะพาชีวิตของเราป่วยไข้ได้อีกหลายโรค
เนื่องจากโรคนี้ทำให้หัวใจต้องทำงานหนักซึ่งอาจจะทำให้เกิดโรคหัวใจวาย
และเป็นปัจจัยเสี่ยงอันดับหนึ่งของโรคอัมพาต
นอกจากนี้ยังพาเราให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ โรคไต
โรคหลอดเลือดแดงแข็ง เป็นต้น
ผู้ป่วยโรคนี้ต้องทำการลดน้ำหนัก บริโภคอาหารที่มีปริมาณเกลือลดลง
รับประทานผักและผลไม้ให้มาก เนื่องจากผักและผลไม้จะมีโปแตสเซียมจำนวนมากซึ่งจะช่วยลดความดันโลหิตได้
และควรงดการดื่มสุรา
สำหรับท่านที่ต้องการใช้สมุนไพรเพื่อช่วยคุมความดันให้อยู่ในระดับปกตินั้น สมุนไพรชนิดหนึ่งที่มีความปลอดภัยสูงและมีการใช้ลดความดันกันอย่างแพร่หลาย คือ “คึ่นช่าย”
ทีมาของข้อมูล
http://www.thaigoodview.com/library/iam/healthy06/upyes/upyes.html
http://www.homedd.com/HomeddWeb/servlet/homedd.A_garden.frontweb.FwVegetOurList?hidPage_id=1&hID=294&hMode=Our
http://www.thaigoodview.com/library/studentshow/st2545/5-4/no40/kenchay.html
http://www.bangsakae.org/article-detail.php?id=33
สรรพคุณ / ประโยชน์ของคึ่นฉ่าย
ค่นฉ่ายนั้นมีทั้งในยุโรปและเอเซีย ในยุโรปนั้นถือเป็นพืชพื้นเมืองของยุโรปตอนใต้ ชาวกรีกโบราณมีการทำไวน์ขึ้นฉ่ายเพื่อให้นักกีฬากินและใช้เป็นยาสมุนไพรมานานแล้วด้วย มีด้วยกัน 3 ชนิดคือ ต้นสีขาว สีเขียว และน้ำตาลเขียว ต้นอวบใหญ่มาก สูงราว 40-60 ซม. ส่วนในเอเชียนั้นจะมีขนาดเล็กว่าคือสูงราว 30 ซม. ที่บ้านเรารับประทานกันอยู่นั้นเป็นพันธุ์จากเมืองจีน
สาร สำคัญในขึ้นฉ่ายที่ช่วยลดความดันโลหิต ลดปริมาณโคเลสเตอร์รอลและมีฤทธิ์เป็นยาระงับประสาทก็คือ 3-เอ็น-บิวทิล ฟทาไลด์ (3-n-butylphthalide)
นอกจากนี้ขึ้นฉ่ายยังอุดมไปด้วยธาตุโพแทสเซียมซึ่งช่วยปรับระดับคววามดันเลือดให้เป็นปกติ และมีสารจำพวกเกลือแร่ แคลเซียม และฟอสฟอรัสอยู่มาก จึงช่วยให้ให้กระดูกและฟันแข็งแรงและช่วยบำรุงครรภ์ด้วย
รวมทั้งมีสารต้านอนุมูลอิสระ คือ พีนอลิคอยู่มาก จึงสามารถนำมาใช้ชะลอความเสื่อมของร่างกายได้ดีพอสมควร มีวิตามินซีสูงมากซึ่งสามารถต้านอนุมูลอิสระ รักษาไข้หวัดและช่วยทำให้หัวใจและหลอดเลือดแข็งแรง ทั้งยังมีสารเบตตาแคโรทีนช่วยต้านมะเร็งและหัวใจขาดเลือดอีกด้วย
และคุณสมบัติทางยาของขึ้นฉ่ายตามตำราจีนอีกอย่างหนึ่งก็คือ ช่วยขับปัสสาวะ และน้ำคั้นจากขึ้นฉ่ายยังช่วยลดอาการบวมน้ำ เช่น อาการบวมน้ำก่อนมีประจำเดือน แก้โรคไขข้อ แก้อาการอักเสบและอาการปวดตามข้อ
ชาวเอเชียรู้จักใช้ขึ้นฉ่ายเป็ยาลดความดันมาเป็นพันปีแล้วค่ะ ชาวจีน ชาวเวียดนามแนะนำให้รับประทานวันละ 4 ต้น เพื่อรักษาความดันให้เป็นปกติ ซึ่งมีข้อมูลว่าในปี ค.ศ. 1992 นายมินห์ เลย (Minh Le) ชาวเวียดนามบิดาของนักศึกษามหาวิทยาลัยแพทย์ชิคาโก ถูกวินิจฉัยจากแพทย์ว่าเป็นโรคความดันโลหิตสูง และแพทย์ได้สั่งยาแผนปัจจุบันเพื่อรักษาความดันโลหิตสูง ขับปัสสาวะ แก้อาการเมาเหล้า แก้อาเจียน รับประทานมากทำให้เป็นหมันได้ ใบแก้โรคความดันโลหิตสูง แก้อาการตกเลือด แก้โรคลมพิษ เมล็ด ขับลม ขับประดู ขับปัสสาวะ แก้อาการเกร็งของกล้ามเนื้อเป็นยาบำรุงหัวใจ เป็นต้น
สอดคล้องกับการศึกษาฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาที่พบว่า ขึ้นฉ่ายมีสรรพคุณในการลดความตัดโลหิต ขับปัสสาวะ ลดบวม คุมกำเนิด ลดจำนวนอสุจิ ลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดโคเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ ยับยั้งการเกิดมะเร็ง เนื้องอก ต้านการอักเสบ ทำให้กล้ามเนื้อเรียบบีบตัว มีฤทธิ์กล่อมประสาท เป็นต้น
ส่วนสาเหตุที่นิยมนำขึ้นฉ่ายมาใช้ในการปรุงอาหาร เพื่อดับกลิ่นคาวปลาหรือเนื้อหรือเพิ่มความหอมของน้ำซุบ ก็เพราะว่าในขึ้นฉ่ายมีสารจำพวกน้ำมันหอมระเหย ได้แก่ ไลโมนีน (Limonene) ซีลินีน (Selinene) และ ฟทาไลด์ (Phthaildes) ซึ่งทำให้เกิดกลิ่นหอมเฉพาะตัวของขึ้นฉ่าย และช่วยกระตุ้นให้เกิดความอยากอาหาร
เดี๋ยวนี้คนทั่วโลกหันมานิยมรับประทานอาหารขึ้นฉ่ายกันมากขึ้น มีทั้งรับประทานกันแบบสด ๆ หรือนำไปคั้นเป็นน้ำดื่มแบบสด ๆ หรือไปปรุงอาหารสารพัดรูปแบบ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก ธรรมลีลา ขอขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต
No comments:
Post a Comment